วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการ



ใครที่ไม่อยากเป็นมะเร็ง วันนี้เรามีสารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการมาบอกกัน

1. น้ำตาล เช่น น้ำตาลทรายขาว โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เกลือ มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด หรือในปริมาณน้อย

2. นม ควรดื่ม นำนมถั่วเหลืองทดแทน
 

3. เซลล์มะเร็ง เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด ควรรับประทานอาหารประเภทปลา ดีกว่าหมู เนื้อ และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง

4. 80% ของผักและนำผลไม้สดถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง 20% จากอาหารที่ปรุงแล้ว น้ำผักและผลไม้สด จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด และกินผักดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน

5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง เป็นดื่มชาเขียวที่มี สารต้านมะเร็ง ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำกรองดีที่สุด หลีกเลี่ยงน้ำประปา และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด

6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก และเนื้อที่ย่อยไม่หมด จะคงตกค้างอยู่ในลำไส้ อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง

7. เซลล์มะเร็ง มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น

8. อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง เช่น วิตามินอีวิตามินซี

9. เซลล์มะเร็ง เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การควบคุมอารมณ์ และมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น อารมณ์โกรธ หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่างกาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก และให้อภัย พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต

10. เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้

การ ออกกำลังกายทุกวัน และหายใจเข้าลึกลึก จะช่วยเพิ่มระดับ ออกซิเจนในเซลล์ การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์มะเร็ง

บทความจาก นสพ.เดลินิวส์

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บริษัทโดกุดามิเอเชีย

 
         บริษัท โดกุดามิ เอเซีย จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพืชและสมุนไพรไทย โดยใช้กระบวนการผลิตและแปรรูปในระดับโมเลกุล ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดของบริษัท ในเวลานี้คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดกุดามิ ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคร้ายต่างๆ มีผลงานเป็นที่ยอมรับทั่วประเทศไทย ไม่ต้องหมดหวังกับชีวิต เพราะโรคร้ายที่รักษาไม่ได้ แม้แต่โรคเกี่ยวกับพันธุกรรม

         ผลิตภัณฑ์ ของที่ผลิต โดยบริษัท
โพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์สินค้า โดกุดามิ  มีงานวิจัยรองรับในเรื่องของสารสำคัญแอนตี้อ๊อคซิแดนซ์ โดยคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับบริษัท โพรแลค (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ชีวิตของคนไทยยังมีความหวังในการเอาชนะโรคร้ายได้

 
          ผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯ มีหลายชนิดที่ช่วยให้สุขภาพชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งแวดล้อม ดีขึ้น ไม่ก่อปัญหาโรคร้อนและทำลายสิ่งแวดล้อม ผลิตเพื่อสุขภาพทุกชนิด ปลอดสารเคมี ตั้งแต่การปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่ผลิตเอง ชีวภัณฑ์ปรับปรุงบำรุงดินจนถึงระบบการเก็บเกี่ยว และการแปรรูป ดำเนินการเองทั้งหมด เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพว่าปลอดภัยอย่างแท้จริง

มีจำหน่ายเฉพาะในระบบขายตรงเท่านั้น

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โดกุดามิกับโรคเอดส์

โรคเอดส์คืออะไร 
               โรคเอดส์เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่า   ไวรัสเอดส์  หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่าHIV(เอช-ไอ-วี) ซึ่งย่อมาจาก
Human immunodeficiency Virus   เมื่อไวรัสเอดส์เข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปภายในเซลล์บางชนิดของร่างกาย  จะมีการฟักตัวระยะหนึ่งซึ่งอาจนานเป็นปีหรือนานกว่า 10 ปี  โดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ  ต่อมาไวรัสจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย  จนสามารถทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายให้เสื่อมหรือเสียไปเรื่อยๆ  ผู้ป่วยจึงมักมีการติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย  ในที่สุดร่างกายก็ไม่สามารถทนทานได้  และจะเสียชีวิตในที่สุด

             เอดส์ หรือ กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม   (Acquired Immune Deficiency Syndrome - AIDS) เป็นกลุ่มอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเพราะร่างกายได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ที่เป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคลดน้อยลง จึงทำให้การติดเชื้อโรคได้ฉวยโอกาสแทรกซ้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรคในปอด หรือต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อรา โรคผิวหนังบางชนิด หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตมักเกิดขึ้นจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้อาการจะรุนแรง และเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว

              ปัจจุบันเอดส์มีการตรวจพบทั่วโลก และประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ อย่างน้อย 25 ล้านคน ตั้งแต่ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) นับเป็นโรคที่มีอันตรายสูงโรคหนึ่งของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ ในปี พ.ศ. 2548 ประมาณการว่ามีผู้ติดเอดส์ประมาณ 3.1 ล้านคน (ระหว่าง 2.8 - 3.6 ล้าน) ซึ่ง 570,000 คนของผู้ป่วยเอดส์เป็นเด็ก (UNAIDS, 2005)

ความหมายของเอดส์
                  คำว่า เอดส์ มาจากภาษาอังกฤษว่า AIDS ซึ่งย่อมาจากคำเต็มว่า Acquired Immune Deficiency Syndrome ซึ่งแต่ละคำมีความหมายดังนี้
  • A = Acquired หมายถึง เกิดขึ้นภายหลัง ไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิดหรือสืบทอดทางกรรมพันธุ์
  • I = Immune หมายถึง ระบบภูมิต้านทานหรือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • D = Deficiency หมายถึง ความบกพร่อง การขาดไปหรือเสื่อม
  • S = Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการคือมีอาการหลาย ๆ อย่างไม่เฉพาะที่ระบบใดระบบหนึ่ง
รวมแปลว่า “กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม” เป็นกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวี เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เสื่อมหรือบกพร่องลง เป็นผลทำให้เป็นโรคติดเชื้อหรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการมักจะรุนแรง เรื้อรัง และเสียชีวิตในที่สุด

สาเหตุการติดเชื้อ
เชื้อไวรัสเอชไอวีพบในเลือดและสารคัดหลั่งหลายชนิดของร่างกาย ได้แก่ น้ำอสุจิ เมือกในช่องคลอดสตรี น้ำนม น้ำลาย และอาจพบได้ในปริมาณน้อยๆ ในน้ำตาและปัสสาวะ เมื่อพิจารณาจาก แหล่งเชื้อแล้วจะพบว่าเชื้อไวรัสเอชไอวีติดต่อได้ หลายวิธีคือ
1. การมีเพศสัมพันธ์ เกิดขึ้นได้ทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน และกับเพศตรงข้าม
2. การรับเลือดและองค์ประกอบของเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะรวมทั้งไขกระดูกและน้ำอสุจิที่ใช้ผสมเทียมซึ่งมีเชื้อ แต่ในปัจจุบันปัญหานี้ได้ลดลงไปจนเกือบหมด เนื่องจากมีการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีในผู้บริจาคเหล่านี้ รวมทั้งคัดเลือกกลุ่มผู้บริจาคซึ่งไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น ไม่รับบริจาคเลือดจากผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น เป็นต้น
3. การใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาเสพติดร่วมกัน และของมีคมที่สัมผัสเลือด
4.จากมารดาสู่ทารก ทารกมีโอกาสรับเชื้อได้หลายระยะ ได้แก่ เชื้อไวรัสแพร่มาตามเลือดสายสะดือสู่ทารกในครรภ์ ติดเชื้อขณะคลอด จากเลือดและเมือกในช่องคลอด ติดเชื้อในระยะเลี้ยงดูโดยได้รับเชื้อจากน้ำนม จะเห็นได้ว่าวิธีการติดต่อเหล่านี้เหมือนกับไวรัสตับอักเสบบีทุกประการ ดังนั้นถ้าไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ก็จะไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ด้วย

การรักษา      
          ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีใช้ทั่วไป และไม่มีวิธีรักษาการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์ให้หายขาด วิธีป้องกันโรคอย่างเดียวที่มีใช้อยู่คือการหลีกเลี่ยงการได้รับเชื้อไวรัส หรือถ้าได้รับมาแล้วก็ต้องใช้ยาต้านไวรัสทันทีหลังจากการได้รับเชื้อ หรือ post-exposure prophylaxis (การป้องกันโรคหลังการสัมผัส - PEP) การป้องกันโรคหลังการสัมผัสนี้ต้องให้ยาติดต่อกันสี่สัปดาห์โดยมีตารางเคร่งครัด และมีผลข้างเคียงเช่น ท้องเสีย ความรู้สึกไม่สบาย คลื่นไส้ และ อ่อนเพลีย

สมุนไพรพลูคาว
             เป็นพืชที่พบในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผักพลูคาวที่ใต้ใบจะมีสีแดงอ่อนจนถึงสีแดงเข้มชาวบ้านในเขตภาคเหนือจะเรียกว่า ผักคาวตอง เพราะต้นและใบจะมีกลิ่นรุนแรงคล้ายคาวปลา ส่วนภาคกลางจะเรียกว่าผักพลูคาว นิยมนำใบมาเป็นผักเคียงใช้บริโภคสดกับอาหารได้
             พลูคาวเป็นพืชสมุนไพรมีการใช้ในการรักษาโรคในหลายประเทศ เช่น การประเทศจีน  เกาหลี  ญี่ปุ่น  อินเดีย ในประเทศเกาหลีใช้สมุนไพรพลูคาวรักษาโรคความดันโลหิตสูงและ ในประเทศไทยโดยเฉพาะทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้สมุนไพรพลูคาวเพื่อดับพิษไข้  ขจัดสารพิษ  รักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษาอาการอักเสบของผิวหนัง แผลผ่าตัด แผลเน่าเบาหวาน ปอด หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง   โรครักษาโรคติดเชื้อจากไวรัส เช่น กามโรค เอดส์   ทำให้น้ำเหลืองแห้ง  แผลแห้ง  แก้โรคไขข้อ  แก้โรคผิวหนัง  ขับปัสสาวะ  แก้อาการบวม  ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แก้ริดสีดวงทวาร

ข้อมูลอ้างอิง 1. จากหนังสือ ผักคาวตอง สถาบันวิจัยสมุนไพร
                              กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
                         2. จากหนังสือ THE ASEAN JOURNAL OF RADIOLOGY

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโดกุดามิสกัดเข้มข้นผลิตจากสมุนไพรพลูคาว 99.3%
ภาพผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่ใช้ผลิตอาหารเสริมโดกุดามิ   

                                        

วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โปรไบโอติกในโดกุดามิเพื่อสุขภาพดี


โปรไบโอติก
โปรไบโอติก (Probiotics) คืออะไร
โปรไบโอติก คือ สารชีวภาพที่จุลินทรีย์โปรไบโอติกสร้างขึ้นมาและช่วยกระตุ้นส่งเสริมการมีชีวิต ซึ่งตรงกันข้ามกับคำว่า แอนตี้ไบโอติก ที่เป็นสารทำลายสิ่งมีชีวิต
จุลินทรีย์โปรไบโอติก คืออะไร จุลินทรีย์โปรไบโอติก คือ จุลินทรีย์กลุ่มดีมีประโยชน์ส่งเสริมการมีชีวิตที่สมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิต


ประโยชน์ของจุลินทรีย์โปรไบโอติก
            ให้สารโปรไบโอติกที่เป็นประโยชน์หลายชนิด สร้างสมดุลของเมตะบอลิสม์ในร่างกาย จึงช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายโดยรวม เพิ่มระดับภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง สามารถต่อสู้เชื้อโรคได้ดี ให้สารแบคเตอริโอซิน ที่เลือกทำลายจุลินทรีย์ที่ก่อโรคในร่างกาย ช่วยลดอาการอาหารเป็นพิษ ปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร ช่วยขจัดสารพิษ ช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส ลดการเกิดสิว ฝ้า ช่วยต้านการเกิดมะเร็ง ช่วยลดความวิตกกังวลและคลายความซึมเศร้า ช่วยลดคอเลสเตอรอล สาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจและเส้นเลือดในสมองตีบ อุดตัน ช่วยให้ร่างกายเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก ช่วยลดความเสียงต่อการเกิดโรคกระดูกผุ

เชื้อชูชีพ ( Probiotics)
               โปรไบโอติกหรือแบคทีเรีย (จุลชีพ) ทีเป็นมิตรหรืออาจเรียกว่า เชื้อชูชีพ เพราะจุลชีพหรือแบคทีเรียที่อาศัยเป็นปกติในลำไส้ ( normal floral )  โดยเฉพาะกลุ่มแลคโตบาซิลลัส ( lactobacillus )  ซึ่งเจริญได้ดีในน้ำนมนั้นช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน นับเป็นกลไกที่ธรรมชาติมีไว้เพื่อสร้างสมดุลให้ชีวิตตามธรรมชาติเรารับประทานอาหารที่เสริมสร้างสุขภาพ แบคทีเรียที่เป็นมิตรที่อาศัยอยู่ในลำไส้จะเก็บกินเชื้อรา ( yeast ) ที่เกิดขึ้น  เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันมาก อาหารที่มีเส้นใย ( Fiber ) น้อย รวมทั้งการรับประทานยาปฎิชีวนะ เป็นการทำลายแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ หรือแม้แต่การมีความเครียดด้วยทั้งหมดนี้ทำให้สมดุลระหว่างแบคทีเรียที่ดี และไม่ดีที่เสียไป ผลเสียคือทำให้เชื้อราในลำไส้ของเราเจริญเติบโตเป็นจำนวนมาก และแบคทีเรียที่ดีที่หล่อเลี้ยงระบบภูมิคุ้มกันผ่านเยื่อบุของลำไส้ลดจำนวนน้อยลงไป ยีสต์จึงเจริญเติบโตแล้วมาควบคุมลำไส้แทน แบคทีเรียโปรไบโอติก  ทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า  dysbiosis  ( สิ่งมีชีวิตที่ผิดเพี้ยนมาอาศัยอยู่และเราอย่าลืมว่าระบบภูมิคุ้มกันประมาณ 40 % นั้นอยู่ที่บริเวณลำไส้ของเรา เพราะฉะนั้น เราจึงควรรับประทานอาหารประเภทที่มีกากใย ( Fiber ) ให้มาก งดน้ำตาลทรายขาว รับประทานน้ำสะอาดมาก ๆ  แต่สังคมไทยเราทุกวันนี้จะอยู่ในสภาวะที่เร่งรีบตั้งแต่เด็ก คือ ตื่นเช้าต้องรีบไปโรงเรียนผู้ปกครองต้องรีบไปส่ง คนในวัยทำงานก็ต้องรีบผจลฝ่าการจราจรที่ติดขัดเพื่อรีบไปทำงานให้ทัน จนกระทั่งทุกคนลืมความสำคัญของการดำรงชีวิตที่ดี เพื่อความอยู่รอด แต่สุดท้ายทุกคนก็ไม่รอดจากการเจ็บป่วยจากสาเหตุของ การรับประทานอาหารที่เอาสะดวกไว้ก่อน ภาวะของความเครียดที่เกิดจากเหตุผลต่าง ๆ ทำให้ระบบขับถ่ายเราไม่ได้ขับถ่ายทุกวัน ซึ่งสิ่งที่เราทุกคนควรจะปฎิบัติตัวเพื่อมีสุขภาพที่ดี คือ ขับถ่ายทุกเช้า หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันในนม รับประทานผัก และรับประทานโปรไบโอติกเสริมถ้าหากเราไม่สามารถปฎิบัติตัวได้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเราในระยะยาว ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ 

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โดกุดามิกับโรคมะเร็ง


            มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เซลล์เจริญ (แบ่งตัว) อย่างผิดปกติ การที่เซลล์เปลี่ยนสภาพไปจากปกติจะไม่อยู่ในการควบคุมวัฏจักรการแบ่งตัว รุกรานเนื้อเยื่อข้างเคียง หรืออาจแพร่กระจายไปยังที่อื่น ๆ (การแพร่กระจายของเนื้อร้าย) ลักษณะทั้งสามประการที่กล่าวมานี้เป็นคุณสมบัติของเนื้อร้ายซึ่งต่างจาก เนื้องอก ซึ่งไม่ร้ายแรงเพราะไม่รุกรานหรือแพร่กระจาย และขนาดจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มะเร็งทั้งหมดยกเว้น มะเร็งเม็ดเลือดขาว จะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อ    มะเร็งเกิดขึ้นได้โดยสารพันธุกรรมหรือยีนซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ผิดปกติไป โดยที่ความผิดปกติของสารพันธุกรรมนั้นเป็นผลมาจากสารก่อมะเร็ง อาทิ ยาสูบ ควัน รังสี สารเคมีอย่างอื่น หรือ เชื้อโรค ยีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งอาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่จำเพาะเจาะจงระหว่างการทำสำเนาของดีเอ็นเอ หรืออาจถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในทุกเซลล์หลังจากคลอด การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของมะเร็งนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอย่างอื่นๆ ด้วย

               นักวิจัยของคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมาเลเซียได้พบว่า ฟักทองสามารถสะกดเซลล์มะเร็งเพราะฟักทองมี “กรดโปรไพโอนิค” กรดนี้ทำให้แป้งเป็นของที่ไม่อาจจะย่อยได้ จึงหมักพวกแบคทีเรียเอาไว้ และบ่อน ทำลายเซลล์มะเร็งให้อ่อนแอ

               นักวิจัยที่อังกฤษ ดร.กิลเลียน รีฟส์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ศึกษาพบว่าผู้หญิงวัยกลางคนในอังกฤษราว 6,000 คน เป็นมะเร็งมากขึ้นทุกปี สาเหตุมาจากความอ้วน โดยงานวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างน้ำหนักกับโอกาสเสี่ยงที่เป็นมะเร็งนั้น ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้หญิงด้วย และทางกองทุนวิจัยมะเร็งโลก ผู้ประกาศเตือนว่า ความอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง ดังต่อไปนี้ คือ มะเร็งมดลูก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งที่ไต มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งทรวงอก มะเร็งไขกระดูก มะเร็งที่ตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้น และมะเร็งรังไข่

               มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า อัตราการเป็น มะเร็งทรวงอก และมะเร็งต่อมลูกหมาก มีมากในกลุ่มคนที่ทำงานตอนกลางคืน

               มะเร็งกำเนิดจากเซลล์ร่างกายที่สามารถแบ่งเซลล์ได้วิวัฒนาการจนไม่สามารถควบคุมได้ มีกระบวนการวิวัฒนาการโดยการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมนั้นๆทำให้ผลิตเอนไซม์มาสร้างทีโลเมียในเซลล์อย่างไม่หมดสิ้นทำให้เซลล์ไม่สามารถหยุดแบ่งเซลล์ได้ เพิ่มเติม ทีโลเมียเปรียบเหมือนนาฬิกาทีนับถอยหลังไปเรื่อยๆขณะนั้นเซลล์ยังสามารถแบ่งเซลล์ต่อไปโดยทีโลเมียจะหดสั้นลงเรื่อยๆและเมื่อสายทีโลเมียหมดก็จะทำให้เซลล์หยุดแบ่งตัวทำให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ยงคงกระพันต้องหยุดเจริญเติบโต แต่ทีโลเมียของเซลล์มะเร็งไม่หดสั้นลงทำให้เติบโตโดยควบคุมหยุดยั้งไม่ได้

มะเร็งในประเทศไทย

               ในพ.ศ. 2549 ประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 66,000 ราย โดยในผู้ชายพบ มะเร็งปอดมากที่สุด 5,535 ราย รองลงมาคือโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้หญิงพบ มะเร็งปากมดลูก มากที่สุด 1,484 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม

อาหารต้านมะเร็ง

               นักวิจัยเชื่อว่า พฤติกรรมการดำรงชีวิตมีสัมพันธ์ต่อปัจจัยความเสี่ยงของโรคมะเร็งเป็นอย่างมาก นักวิจัยยังเชื่ออีกว่าการ กว่า หกสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรงมะเร็งทั้งหมด อาจจะไม่เสียชีวิตด้วยโรคนี้ ถ้าหากยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำรงชีวิต และการพฤติกรรม การกินก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้เป็นอย่างมาก อาหารบางประเภท มีสารที่ต้านอนุมูลอิสระได้สูงและป้องกันการเกิดมะเร็งได้ดี เราเรียกอาหารประเภทนี้ว่า อาหารต้านมะเร็ง บร็อคโคลี่, อโวคาโด ,แครอท, และ กะเทียม เป็นหนึ่งในอาหารต้านมะเร็งที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป

สารก่อมะเร็ง

 ตัวอย่างสารก่อมะเร็งในคน ที่สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติยอมรับ 

  สารก่อมะเร็ง
ที่มา 
 ทางได้รับ
 อวัยวะที่เกิดมะเร็ง
ก.ที่ได้จากอาหารหรือยา

1. สารพิษอะฟล่าหรืออะฟล่าท้อกซิน (Aflatoxin) 



อาหารที่มีราบางชนิดขึ้นที่พบมากได้แก่ ถั่วลิสงบด , ข้าวหมาก, เนย, ถั่วเหลือง ,พริกแห้ง หัวหอมและกระเทียมแห้งที่มีราดำขึ้น



กิน, หายใจ





ตับ
2.ไนโตรซามีน( Nitrosamine) 

อาหารที่มีสารไนเตรท ไนไตรท์ปนอยู่มาก เช่น อาหารหมักดองหรือใส่ดินประสิว, แหนม ไส้กรอก ,กุนเชียง, หมูยอ ปลากระป๋อง และเนื้อกระป๋อง ในผักผลไม้ที่ใส่ปุ๋ยไนเตรตมากๆ 
 กิน
 ตับ,ปอด,ลำไส้
 3.ไซโคลฟอส( Cyclophospamind)

ยารักษามะเร็งหรือโรคไตบางชนิด 

กิน ,ฉีด 


กระเพาะปัสสาวะ 

 4.เมลฟาแลน( Melphalan) 
ยารักษามะเร็ง 
กิน ,ฉีด 

อวัยวะสร้างเลือด 
5.ไดเอลธิลสติลเบสตรอล(Diethyl stibestrol) 

ฮอร์โมนที่เติมให้หญิงในหญิงตั้งครรภ์เพื่อป้องกันการแท้งบุตร(ขณะนี้เลิกใช้แล้ว) 
 กิน
มดลูกและช่องคลอด
ข.ได้รับจากงานอาชีพ,โรงงานอุตสาหกรรมและหรือปนมาในสิ่งแวดล้อม

1. สารประกอบที่มีสารหนู
( Arsenic compound)






โรงงานที่เกี่ยวข้อง,ยาฆ่าแมลงและวัชพืชบางชนิด,โรงงานกลั่นน้ำมัน





หายใจ,กิน,ผิวหนัง





ผิวหนัง,ปอด,ตับ
2.แอสเบสตอส( Asbestos) 
โรงงานที่ทำสารนี้,โรงทอผ้า,ใยแก้วกันความร้อน,อู่ต่อเรือ 
หายใจ,กิน 
 ปอด,ลำไส้
3.เบนซิดีน (Benzidine) 
โรงงานผลิตสี,ผลิตยาง,โรงทอผ้า.โรงย้อมผ้า 
กิน,หายใจ,ผิวหนัง 

กระเพาะปัสสาวะ 

4.สารเคมีแนฟธิลามีน
( 2-Naphthylamine) 
โรงงานผลิตสี,ผลิตยาง,โรงทอผ้า.โรงย้อมผ้า 
กิน 
กระเพาะปัสสาวะ 
5.สารเคมี NN-Bis( 2-chloroethyl)
-2 Naphthylamine
โรงงานผลิตสี,ผลิตยาง,โรงทอผ้า.โรงย้อมผ้า 
หายใจ,ผิวหนัง,กิน 
กระเพาะปัสสาวะ 
6.สารเคมี
Bis chloromethyl ether 
โรงงานสังเคราะห์สารโพลิเมอร์ สารเคมีดังกล่าว, สาร(พลาสติค ),สารเรซิน
หายใจ 
ปอด 
7.สารเคมี
Chloromethyl-methyl ether

โรงงานสังเคราะห์สารโพลิเมอร์ สารเคมีดังกล่าว, สาร(พลาสติค ),สารเรซิน
 หายใจ
 ปอด
8.แก๊ซมัสตาด
Mustard gas
โรงงานอุตสาหกรรม 
หายใจ 
 ปอด-หลอดเสียง
9.ไวนิล คลอไรด์
( Vinyl chloride)
โรงงานสังเคราะห์พลาสติค( polymer) 
หายใจ,ผิวหนัง 
ตับ-สมอง-ปอด 
10. เขม่า( Soot)
      น้ำมันดิน( tar)
      น้ำมันเครื่อง(Oil)
คนงานปั๊มน้ำมัน,ราดยางถนน,เหมืองแร่หรือถ่านหิน,โรงถลุงแร่,โรงงานกลั่นน้ำมัน,โรงทอผ้า,คนงานคุมเครื่องจักรต่างๆ 

หายใจ,ผิวหนัง 
ปอด-ผิวหนัง 

สมุนไพรพลูคาวกับโรคมะเร็ง

รายงานการวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ ผักคาวตองที่เกี่ยวข้องกับ มะเร็ง
1.ฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็ง (Cytotoxicity against tumor cell lines)
2.ฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Antiieukemic activity)
      
         ในประเทศจีน มีการใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยาผงสำหรับรับประทาน ใช้ในการรักษามะเร็งทางเดินอาหารและมะเร็งทางเดินหายใจ รวมไปถึงเนื้องอกในรังไข่(oophoroma)มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม (CN1228310) ใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยาสำหรับรักษามะเร็งปอด(CN1178110) เป็นส่วนประกอบในตำรับยาจีนซึ่งกล่าวว่ามีสรรพคุณในการกำจัดความร้อนและสารพิษ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และใช้รักษามะเร็งหลอดอาหาร(CN1141799) ใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยารับประทาน สำหรับยับยั้งและทำลายเซลล์มะเร็ง และเพิ่มภูมิต้านทาน (CN1113789) ใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาในรูป ointment สำหรับใช้ทาภายนอกรักษาเต้านมอักเสบ และมะเร็งเต้านม(CN109989) ใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยาทั้งในรูปแบบที่ใช้รับประทาน และป็นยาฉีดสำหรับรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร(CN1100951) ใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยาจีนสำหรับรักษามะเร็ง และรักษาอาการข้างเคียงที่เกิดจากการใช้รังสีรักษา และเคมีบำบัด(CN1098932) ใช้ผักคาวตองเป็นส่วนประกอบในตำรับยาน้ำรับประทาน รักษาโรคมะเร็งลำไส้ส่วน rectum มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งเต้านม (CN1105246)


โดกุดามิผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ผลิตจากผักพลูคาว 99.3%

ภาพผู้ป่วยที่ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโดกุดามิ